ผู้หญิงทุกคน ย่อมต้องดูแลจุดซ่อนเร้นภาษาอังกฤษ มีวิธีดูแลตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้น ที่คอยรบกวนจิตใจ ทำให้รู้สึกวิตกกังวลใจอยู่ตลอด ไม่มั่นใจในตนเอง หากเกิดความผิดปกติ จึงควรมีที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง และตรวจความผิดปกติที่จะเกิดตรงจุดซ่อนเร้น เพราะบางเรื่องอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
วิธีดูแลจุดซ่อนเร้น ทำอย่างไร
- จุดซ่อนเร้นภาษาอังกฤษ หมั่นตรวจเช็คอวัยวะเพศของตัวเองอย่างละเอียด ให้เวลากับการตรวจหาความผิดปกติของจุดซ่อนเร้น เช่น รอยแดง อาการบวม จุดสีเข้มหรือดำ ตุ่มน้ำ หรือก้อนที่ปากช่องคลอด เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ามีความผิดปกติดังนี้ ก็ควรรีบปรึกษาสูตินรีแพทย์
- หลังเข้าห้องน้ำ ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศให้แห้งอยู่เสมอ และไม่ควรเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยความรุนแรง หรือใช้กระดาษชำระที่มีกลิ่นและสี แต่ควรใช้กระดาษสะอาดหรือผ้าสะอาดซับให้แห้งก่อนสวมใส่กางเกงชั้นใน
- ไม่ควรใส่กางเกงหรือเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป เพราะอาจเกิดความอับชื้นได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยชนิดสอดเข้าไปในช่องคลอด เพราะอากาศบ้านเรามีความร้อนชื้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรคในช่องคลอดได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยที่ผสมสารสังเคราะห์ต่าง ๆ เช่น สารแต่งกลิ่นให้หอม หรือที่อวดอ้างสรรพคุณสมุนไพร เพราะผ้าอนามัยเหล่านี้อาจไม่ถูกสุขลักษณะและก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้
- หลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือครีมบางอย่างที่ไม่คุ้นเคย เช่น สบู่ยา สบู่สมุนไพร ครีมฟอกช่องคลอด มาล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้บริเวณปากช่องคลอดได้
- อย่าสวนล้างช่องคลอดโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียสมดุลในช่องคลอดได้ อีกทั้งช่องคลอดก็มีกระบวนการทำความสะอาดเชื้อด้วยตัวเองอยู่แล้ว
พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้เกิดปัญหาในจุดซ่อนเร้น
ปัญหาจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ ไม่ว่าจะอาการคัน ตกขาว แสบระคายเคือง มีกลิ่นเหม็น ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ยิ่งนัก อาการคันในจุดซ่อนเร้นนั้นมีทั้งแบบติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ
แบบติดเชื้อที่ทำให้เกิดอาการภายใน ได้แก่เชื้อ แบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว
- ตกขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียจะมีสีขาวปนเทา มีอาการแสบร้อนบริเวณช่องคลอด
- ตกขาวที่เกิดจากเชื้อรา ตกขาวจะมีลักษณะเป็นก้อนคล้ายโยเกิร์ต มีอาการคันมากกว่า เชื้อแบคทีเรีย
- ตกขาวที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ตกขาวที่เกิดจากเชื้อตัวนี้จะมีสีค่อนข้างเขียว บริเวณปากมดลูกมีจุดแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี
อาการคันภายนอกที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
เป็นอาการคันที่เกิดจากการแพ้ของผิวหนังหรืออาจจะเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้เกิดปัญหาในจุดซ่อนเร้น โดยมีสาเหตุคือ
- เกิดจากสารเคมีที่ใช้ในการซักล้าง บริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นบริเวณผิวหนังที่มีความบอบบางเป็นอย่างมาก จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองจากสารเคมีที่ใช้
- การใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไปจนเกิดการเสียดสี สาว ๆ ที่ชอบใส่ชุดชั้นในรัดแน่น หรือกางเกงที่รัดแน่น ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน
- ติดเชื้อปรสิตบางชนิดโดยเฉพาะตัวโลน อาจต้องระวังเรื่องความสะอาดให้มากขึ้น
- การติดเชื้อราภายในร่มผ้า บริเวณใกล้เคียงกับอวัยวะเพศ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนอาจส่งผลให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าได้ การที่ใส่เสื้อผ้ารัดแน่นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะเพศอึดอัด ร้อน ไม่ระบายเหงื่อนั่นเอง
วิธีตรวจเช็คความผิดปกติของจุดซ่อนเร้น
- ดูอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทั่วไป อันที่จริงร่างกายสองข้างของคนเราไม่เท่ากัน ดังนั้น การที่มีแคมใหญ่สองข้างและแคมเล็กสองข้างไม่เท่ากัน จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากมีผื่น มีแผล มีก้อน มีตุ่ม มีไต มีติ่ง แคมเล็กแคมใหญ่เปลี่ยนสีเป็นสีขาว ถือว่าผิดปกติและต้องพบแพทย์
- ดูตกขาว ตกขาวควรเป็นมูกใส มีจำนวนมากในสามช่วง คือก่อนประจำเดือนมา หลังประจำเดือนมา และช่วงไข่ตก โดยช่วงไข่ตกจะมีตกขาวเยอะที่สุดเป็นมูกใสเหนียวยืดได้ประมาณ 10 เซนติเมตร เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศหญิงอย่างไรก็ตาม ตกขาวทั้งสามช่วงควรมาไม่นาน คือไม่เกินสามวัน หากตกขาวมาทั้งเดือน มีปริมาณมาก มีกลิ่น หรือมีสีเช่นสีเขียว สีเหลือง สีช้ำเลือดช้ำหนอง อย่ามัวแต่ใส่แผ่นอนามัยซับไว้ ควรพบแพทย์โดยด่วนค่ะ
- ดูประจำเดือนประจำเดือนที่ปกติ ควรมาไม่เกิน 7 วัน เฉลี่ยมานาน 3 วัน ไม่ควรมากะปริบกะปรอย หากมีก้อนเลือดขนาดใหญ่เกินเส้นผ่าศูนย์กลางสองเซนติเมตรหลุดออกมาด้วย ปวดท้องรุนแรง มีไข้หรือมีกลิ่นเหม็น ถือว่าไม่ปกติ ควรพบแพทย์
- ดูปัสสาวะ เนื่องจากการอักเสบติดเชื้อของน้องสาว มักจะมีการอักเสบติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะร่วมด้วย ดังนั้นหากปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อยเกิน 1 ครั้งในสองชั่วโมงในตอนกลางวัน ปัสสาวะเกินสองครั้งขึ้นไปในตอนกลางคืน ปัสสาวะมีกลิ่น ขุ่น เป็นฟอง เป็นหนอง ปัสสาวะปนเลือดเจ็บปวดรูปัสสาวะ ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ
- ดม เหมือนพูดเล่น แต่จริงค่ะ เราควรดมน้องสาวทุกวัน น้องสาวไม่ควรมีกลิ่นเหม็น ไม่ว่าจะเป็นช่วงปกติธรรมดา ช่วงก่อนหรือหลังประจำเดือนมา ช่วงหลังคลอด ฯลฯ หากน้องสาวมีกลิ่น มักเป็นการติดเชื้อโรค ซึ่งกลิ่นจะบอกได้คร่าว ๆ ถึงความรุนแรงในการติดเชื้อ ดังนี้
- จุดซ่อนเร้น จุดซ่อนเร้นมีกลิ่น จุดซ่อนเร้นผิดปกติ ความผิดปกติของจุดซ่อนเร้น อวัยวะเพศผู้หญิง
- กลิ่นของจุดซ่อนเร้น สามารถบอกถึงความผิดปกติของจุดซ่อนเร้นได้
- กลิ่นเหม็นเปรี้ยว มักเป็นการติดเชื้อรา ไม่อันตรายนัก
- กลิ่นเหม็นหืน เหม็นอับเหม็นบูดเหมือนกลิ่นเท้า มักเกี่ยวข้องกับความสะอาด สุขอนามัย
- กลิ่นเหม็นเค็มเหมือนน้ำปลา เหมือนปลาเค็ม มักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโรคตัวร้าย หรือพยาธิช่องคลอด
- กลิ่นเหม็นเหมือนอุจจาระ มักติดเชื้อที่ปนเปื้อนมาจากอุจจาระ เช่นเชื้อบิด
- กลิ่นเหม็นเน่า หรือกลิ่นเหม็นเหมือนซากศพ เป็นกลิ่นที่บอกถึงความรุนแรง เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ต้องการออกซิเจน ส่วนหนึ่งเป็นกลิ่นของมะเร็งซึ่งมีการติดเชื้อ