ผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์

หลายคนเชื่อว่า การทำกิจกรรมผาดโผน เล่นกีฬา การได้รับความกระทบกระเทือนบริเวณอวัยวะเพศ หรือมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจะทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดได้ โดยทั่วไปแล้ว เยื่อพรหมจรรย์ปกติจะเป็นเยื่อบาง ปกคลุมช่องคลอดของเพศหญิง มีโพรงที่ปล่อยให้ขับเลือดประจำเดือนออกมา การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือทำกิจกรรมผาดโผนที่ทำให้เกิดแรงกระแทกบริเวณหัวหน่าว จะไม่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์เปลี่ยนแปลง ส่วนการสอดใส่อวัยวะเพศชายผ่านปากช่องคลอดเข้าไปนั้นอาจทำให้เยื่อพรหมจรรย์ยืดออกหรือทำให้เกิดรอยฉีกเล็กน้อยเพื่อให้เยื่อพรหมจรรย์ขยาย รวมทั้งอาจเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเยื่อพรหมจรรย์ไปบ้าง ซึ่งผู้คนมักเข้าใจว่าเยื่อพรหมจรรย์ขาด

การที่เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดไปแล้ว อาจทำให้เกิดความกังวล และมีความไม่มั่นใจกับการคบผู้ชายที่ชอบได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่กังวลว่าอีกฝ่ายชายจะคิดมากเรื่องที่ฝ่ายหญิงเคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นมาก่อน ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม

ปัจจุบันจึงได้มีการทำศัลยกรรมผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์ขึ้น เพื่อให้ ผู้หญิงที่เยื่อพรหมจรรย์ขาดโดยไม่ตั้งใจ เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือเคยเลิกกับแฟนเก่า แล้วกังวลว่าแฟนใหม่จะคิดมากเรื่องไม่มีเยื่อพรหมจรรย์ หรือผู้หญิงหลังแต่งงานหรือคลอดบุตรที่ต้องการกลับมามีความรู้สึกเหมือนยังมีเยื่อพรหมจรรย์

การผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์

ผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์ (Hymenoplasty หรือ Hymenorrphaphy) ศัลยกรรมตกแต่งเยื่อพรหมจารี ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงกับของเดิมได้ มีหลายวิธี แพทย์จะทำการเย็บซ่อม โดยการผ่าตัดเพื่อนำขอบของเยื่อพรหมจารีและเนื้อเยื่อรอบ ๆ เยื่อพรหมจารีที่ฉีกขาด มาทำการเย็บซ่อมด้วยไหมละลายช้าเส้นเล็ก โดยการเย็บซ่อมรอบวงของเยื่อพรหมจารีที่ฉีกขาด เพื่อเปลี่ยนรูปแบบเยื่อพรหมจารีให้เป็นรูปวงแหวน ซึ่งเป็นลักษณะของเยื่อพรหมจารีก่อนที่จะฉีกขาด

การผ่าตัดนี้ในบางครั้งจำเป็นต้องทำคู่กับการผ่าตัดตกแต่งปากช่องคลอด เนื่องจากในผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน มักจะมีการฉีกขาดของปากช่องคลอดร่วมด้วย อีกทั้งการเย็บเยื่อพรหมจารี ซึ่งเป็นเพียงเยื่อบาง ๆ ไม่สามารถจะเย็บให้ติดได้หมดทุกจุด จำเป็นต้องอาศัยการผ่าตัดตกแต่งปากช่องคลอดให้แคบลงช่วยเสริมด้วย ทั้งนี้เพื่อทำให้บริเวณปากช่องคลอดและเยื่อพรหมจารี กลับไปสู่สภาพใกล้เคียงคล้ายลักษณะก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก

ผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์ แบบไหนดี

การผ่าตัดจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นหรือไม่

อาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ แต่น้อยกว่าร้อยละ 1 โดยอาจมีความเสี่ยงจากการฉีดยานอนหลับ ภาวะเลือดออกมากผิดปกติ ภาวะแผลแยกหรือภาวะติดเชื้อของแผลผ่าตัด

ในการผ่าตัดส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติใน 2-3 วันหลังการผ่าตัดได้

การดูแลหลังการผ่าตัด

  • ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรจะต้องหยุดทำงาน และงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำเป็นประจำ ในระยะ 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด
  • ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับยาปฏิชีวนะ ยาแก้อักเสบที่ช่วยลดอาการปวดแผลผ่าตัด ยาพาราเซตามอลแก้ปวด และยาระบาย เพื่อป้องกันภาวะท้องผูก ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะควรรับประทานให้ครบทั้งหมด
  • ในระยะ 1-2 วันแรกหลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรอาบน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติหลังการผ่าตัด 1-2 วัน
  • อาจมีเลือดสีแดงจาง ๆ ออกจากแผลผ่าตัดบ้าง ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรใส่ผ้าอนามัย เพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออก
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรทำความสะอาด บริเวณฝีเย็บด้วยการฟอกสบู่ขณะอาบน้ำ ในตอนเช้าและก่อนนอน สำหรับการทำความสะอาดบริเวณฝีเย็บหลังการถ่ายปัสสาวะ สามารถทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก และหลังการถ่ายอุจจาระ สามารถทำได้โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบา ๆ ให้แห้ง

ระยะเวลาพักฟื้นควรปฏิบัติตัวอย่างไร

  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมากๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
  • ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 2 จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด ควรงดการออกกำลังกายทุกชนิด
  • ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 6 จนถึงสัปดาห์ที่ 8 หลังการผ่าตัดสามารถยกของที่ไม่หนักมากได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด
  • หลังการผ่าตัด 8 สัปดาห์ ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามควรงดการมีเพศสัมพันธ์ เป็นเวลาอย่างน้อย 8-12 สัปดาห์

By WorldGymBowie.com

ดูแลจุดซ่อนเร้น โดยการ ศัลยกรรม จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้น รีแพร์กระชับช่องคลอด ช่วยดูแลจุดซ่อนเร้น ไม่ให้มีกลิ่น และสิ่งสกปรก