ดูแลจุดซ่อนเร้นไม่ให้มีกลิ่น

กลิ่นของจุดซ่อนเร้น เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิง  เรามีวิธีมาแนะนำดูแลจุดซ่อนเร้นไม่ให้มีกลิ่น เพียงแค่เลี่ยงพฤติกรรมดังต่อไป
อย่าโกนขนอวัยวะเพศ
ไม่ต้องโกนขนบริเวณอวัยวะเพศให้เกลี้ยง เพราะขนนั้นมีประโยชน์มากแม้จะรกดูรุงรังไปหน่อยก็ตาม ด้วยขนนั้นมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้กลิ่นจากภายในออกมาเหม็นคลุ้งข้างนอกและไม่ควรดึง แว็กซ์ หรือถอน เพียงแค่ตกแต่งให้เป็นรูปเป็นทรง หรือเล็มปลายก็พอ ขนอวัยวะเพศเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดได้ และช่วยลดแรงเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ แถมช่วยควบคุมอุณหภูมิแก่อวัยวะ ไม่ให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงพรวดพราดอีกซะด้วย

ไม่ควรใส่ยีนส์คับแน่น
การแต่งกายยุคใหม่จึงทำให้เกิดความอับชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลวิจัยทางการแพทย์ออกมาแล้วว่า ผู้หญิงที่ใส่กางเกงยีนส์มีโอกาสติดเชื้อรามากกว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่ถึง 3 เท่า และเมื่อคุณอยู่บ้านให้ห้องส่วนตัวการใส่กางเกงในก็ไม่จำเป็น ควรปล่อยโล่งซะบ้างจะได้ไม่อับชื้น

ทำความสะอาดแบบเช็ดหลังมาหน้า
เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น เพราะบางคนอาจลืม หรือทำเป็นนิสัยด้วยการเช็ดทำความสะอาดหลังจากขับถ่ายแล้วแบบจากหลังมาหน้า

ดูแลจุดซ่อนเร้นไม่ให้มีกลิ่น ต้องรักษายังไง

ไม่ใช้น้ำยาเฉพาะจุดซ่อนเร้น
หลายคนคงทราบดี แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ยังใช้อยู่ บางคนก็กลัวล้างแค่น้ำเปล่า หรือสบู่จะไปสะอาดจริง ๆ แล้วน้ำสะอาดและรักษาสมดุลจุดซ่อนเร้นของคุณได้เลิศมาก และเวลาเข้าห้องน้ำตามห้าง หรือที่สาธารณะ ก็ไม่ควรใช้หัวฉีด ในการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ควรพกทิชชู่ติดตัวไปเช็ดจะดีกว่า เนื่องจากหัวฉีดนั้นอาจมีเชื้อราแอบแฝงอยู่ที่ ใช้กระดาษชำระที่มีความอ่อนนุ่มซับเบา ๆ

อย่าสวนล้างช่องคลอด
บางคนมักคิดว่า การสวนล้างช่องคลอดจะทำให้สะอาดล้ำลึกทุกซอกหลืบ เป็นความคิดที่ผิด เพราะการสวนล้างช่องคลอดจะทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นด่างเกินเหตุ จำนวนแบคทีเรียที่สร้างกลิ่นจึงสูงขึ้น ในขณะที่แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสมีจำนวนลดลง อีกทั้งยังเป็น ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดช่องคลอดอักเสบด้วย

กินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ
การกินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ หรือกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือบางคนกินยารักษาสิวเป็นเวลานานก็ไม่หยุดกินสักทีนั้น ยาปฏิชีวนะจะไปทำลายเจ้าเชื้อแบคทีเรีย “แลคโตบาซิลลัส” ที่มีหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ทีนี้จึงเป็นโอกาสให้เชื้อราเจริญเติบโตอยู่ภายในช่องคลอด ตกขาว หรือกลิ่นก็จะตามมาจนเซ็งไปตาม ๆ กัน

ไม่ควรใส่แผ่นอนามัยหากไม่จำเป็น
ใส่แผ่นอนามัยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรใส่ทุกวัน เพราะคิดว่าสะอาดดี หรือใช้เฉพาะวันที่มีตกขาว หรือวันท้าย ๆ ของการมีประจำเดือนแค่ 2-3 วันก็เพียงพอแล้ว ควรปล่อยให้ช่องคลอดของเราได้มีอากาศถ่ายเทลมเข้าบ้างอะไรบ้าง เพราะการใส่แผ่นผ้าอนามัยนั้นยิ่งทำให้อับชื้น และในช่วงที่เป็นประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 2 ชั่วโมง ความอับชื้นจะทำให้แบคทีเรียในผ้าเติบโตได้ดี จนคุณอาจจะติดเชื้อในช่องคลอด
ควรตากกางเกงในที่มีแดดส่องเข้าถึง
การตากในที่ร่มจะทำให้เกิดเชื้อราขึ้น สาเหตุของการติดเชื้อราเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เกิดจากการตากในที่อับชื้นหรือไม่โดนแสงแดด โดยเฉพาะผ้าไนลอนจะสามารถติดเชื้อราได้ง่าย ควรเลือกกางเกงในที่ผลิตจากผ้าฝ้าย เพราะเกิดเชื้อราได้ยาก และระบายความอับชื้นได้ดีกว่า และกางเกงในก็ไม่ควรใส่จนเก่า เพราะจะเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี

งดของหมักดอง รสจัดจ้าน
บางคนกินอาหารรสจัด กลิ่นฉุน หรือกระเทียม ปลาร้า ปูดอง ปลาเค็ม วันรุ่งขึ้นน้องสาวเหม็นตีขึ้นจมูกก็มี
หรืออาหารทะเล เครื่องเทศ หอม เพราะในอาหารหมักดองและอาหารทะเลมีสารเคมีกระตุ้นตกขาวเกิดปฏิกิริยาอักเสบระคายเคืองในร่างกาย
การกินนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต ก็ช่วยให้จุดซ่อนเร้นของคุณกลับมามีกลิ่นหอมได้ เพราะในโยเกิร์ต และนมเปรี้ยวจะมี “แลคโตบาซิลลัส” ที่มีหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ทานสัก 2-3 วัน อาการเหม็นก็บรรเทาเบาบางลง และที่สำคัญทานน้ำเปล่าให้มากจะช่วยได้ดีทีเดียว

By WorldGymBowie.com

ดูแลจุดซ่อนเร้น โดยการ ศัลยกรรม จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้น รีแพร์กระชับช่องคลอด ช่วยดูแลจุดซ่อนเร้น ไม่ให้มีกลิ่น และสิ่งสกปรก