การฉายแสงเป็นการใช้ในการรักษาโรคมะเร็งซึ่งจะใช้รังสีพลังงานสูงฉายไปตำแหน่งของเซลล์มะเร็งเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น ซึ่งการฉายแสงในการรักษาโรคมะเร็งนั้นจะขึ้นอยู่กับระยะของโรคมะเร็ง ชนิดของโรคมะเร็ง และสุขภาพของผู้ป่วยเอง ฉายแสงผมร่วงไหม คงเป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนต้องการคำตอบ และวันนี้เราได้หาคำตอบมาให้แล้ว โดยที่ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้ก้าวไกลไปมาก ผู้ที่ได้รับการฉายแสงมักมีความวิตกกังวลว่าปลูกผมfueตัวเองจะร่วงเหมือนกับผู้ป่วยรายอื่นหรือไม่ ซึ่งยุคสมัยนี้การได้รับเคมีบำบัดบางชนิดจะส่งผลให้เกิดผมร่วงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือยาเคมีบำบัดบางชนิดก็สามารถพุ่งเป้าเจาะจงไปยังเซลล์มะเร็ง ทำให้คนไข้บางรายไม่มีภาวะผมร่วงเลยก็มี
การฉายแสงรักษามะเร็ง ไม่ได้ทำให้ผมร่วงทุกคน
เนื่องด้วยยุคนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลไปมาก ผู้ที่เป็นมะเร็งและได้รับการฉายแสงมักมีความวิตกกังวลว่าผมตัวเองจะร่วงเหมือนกับผู้ป่วยรายอื่นหรือไม่ ซึ่งยุคสมัยนี้การได้รับเคมีบำบัดบางชนิดจะส่งผลให้เกิดผมร่วงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือยาเคมีบำบัดบางชนิดก็สามารถพุ่งเป้าเจาะจงไปยังเซลล์มะเร็ง ทำให้คนไข้บางรายไม่มีภาวะผมร่วงเลย ในการฉายแสงนั้นจะไม่ทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ ยกเว้นการฉายแสงที่บริเวณศีรษะโดยตรง และหากใครหลายคนเข้าใจว่าการฉายแสงแล้วทำให้ผมร่วงนั้นในผู้ป่วยมะเร็งนั้นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ดังนี้
- สาเหตุที่ทำให้ผมร่วงจากการฉายแสงนั้นมักเกิดขึ้นเมื่อถูกฉายแสงบริเวณศีรษะเท่านั้น
- จากการใช้เคมีบำบัดเพื่อทำการรักษามะเร็ง แต่จะไม่ได้ร่วงถาวร และไม่ได้เกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยทุกราย ซึ่งจะเกิดในยาเคมีบำบัดบางตัวเท่านั้น โดยทั่วไปผมจะงอกขึ้นมาใหม่หลังจากหยุดให้ยาแล้วประมาณ 1 เดือน
- ผมร่วงจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฉายแสง ซึ่งมีดังนี้
สาเหตุของผมร่วงที่ไม่ได้เกิดจากการฉายแสงมีอะไรบ้าง ?
สาเหตุของผมร่วงนั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัย คือปัจจัยภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอกร่างกาย ปัจจัยภายในร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากเป็นปัจจัยภายนอกร่างกาย เกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างซึ่งสามารถดูแลเพื่อลดสาเหตุของผมร่วงได้
- สาเหตุของผมร่วงที่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย เราไม่สามารถควบคุมได้จึงทำให้การแก้ไขปัญหาผมร่วงในส่วนนี้เป็นไปได้ยาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ผมร่วงจากภายในมักมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน และความเครียด
- สาเหตุของผมร่วงที่เกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งมักเกิดจากการที่ตัวเองทำร้ายเส้นผมโดยที่ไม่รู้ตัว สามารถแบ่งออกได้ 2 ส่วน ดังนี้
ผมร่วงจากการที่ทำร้ายเส้นผมตัวเองโดยตรงแบบไม่รู้ตัว เช่นการสระผมด้วยน้ำอุ่นบ่อย ๆ ซึ่งการสระผมด้วยน้ำอุ่นนี้จะเป็นการลดความแข็งแรงของเส้นผมทำให้ผมแห้งและหลุดร่วงได้ง่าย การหวีผมในขณะที่ผมกำลังเปียก ซึ่งขณะที่ผมเปียก
อยู่นั้นเส้นผมจะบอบบางมากกว่าปกติ ดังนั้นการหวีผมหรือการใช้ผ้าเช็ดผมแรง ๆ จะส่งผลให้หลุดร่วงได้ง่าย การดัด การยืด การทำสีผมหรือการหนีบผมเป็นประจำ ความร้อนจากการดัดจะไปทำให้เคราตินในเส้นผมหายไป ซึ่งเคราตินมีส่วนให้ชุ่มชื่นเมื่อเคราตินหายไป
ผมร่วงเกิดจากการทำร้ายเส้นผมทางอ้อม มักเกิดจากการรับประทานอาหารรสจัด ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของเส้นผม ซึ่งการรับประทานอาหารรสจัดนั้นจะส่งผลให้ ความดันโลหิตสูงขึ้น เส้นเลือดหดตัว ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงรากผมได้ เส้นผมจึงไม่แข็งแรงเพราะไม่มีอาหาร การลดน้ำหนักที่ผิดวิธีอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่มีความสำคัญต่อเส้นผมได้ เช่น โปรตีน, เหล็ก, สังกะสี (Zinc) ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ถ้าหากขาดแร่ธาตุเหล่านี้โอกาสที่สุขภาพเส้นผมจะอ่อนแอ ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งรวมไปถึงเส้นผมด้วยและเมื่อรากผมไม่มีอาหาร รูขุมขนก็ไม่แข็งแรง เส้นผมจึงขาดหลุดร่วงในที่สุด
เมื่อเกิดผมร่วง ควรรับมืออย่างไร ?
- พยายามหวีผมให้เบามือที่สุด โดยใช้หวีขนาดใหญ่หรือแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม
- ในกรณีที่มีอาการผมร่วงจากการฉายแสงอาจมีความสงสัยว่า ฉายแสงผมร่วงไหม และถ้าหากมีอาการผมร่วงสามารถใช้ผ้าโพกหัวหรือผ้าคลุมศีรษะที่เป็นผ้าฝ้ายบาง ๆ หรือสวมหมวก หรือวิก เพื่อช่วยให้ท่านมีความรู้สึกสบายใจขึ้น
- ควรหลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด สามารถทาครีมกันแดดที่หนังศีรษะเพื่อป้องกันการระคายเคืองจากแสงแดดได้
- ควรใช้แชมพูอ่อน ๆ หรือแชมพูสำหรับเด็กในการรักษาความสะอาดของผมและหนังศีรษะ
- ควรใช้หมอนหนุนรองศีรษะ รวมไปถึงปลอกหมอนที่ไม่ระคายเคืองต่อหนังศีรษะ
ฉายแสงผมร่วงไหม สำหรับผู้ที่รักษาโรคมะเร็งนั้นและต้องทำการฉายแสงบางรายอาจมีอาการผมร่วงหรือบางรายอาจจะไม่ร่วงเลยก็ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เมื่อผ่านจากการฉายแสงไปได้ประมาณ 1 เดือน และจะมีผมเกิดขึ้นใหม่ได้ในเวลาต่อมา