จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นคาว สาเหตุที่ทำให้ช่องคลอด มีกลิ่นคืออะไร

จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นคาวหรือ ช่องคลอดมีกลิ่นคาว เป็นอาการที่พบได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนกระทั่งผู้สูงวัย ประมาณ 1 ใน 3 ของคุณผู้หญิงบางทีอาจเคยมีปัญหาช่องคลอดมีกลิ่นอย่างน้อย 1 ครั้งซึ่งโดยปกติ บริเวณช่องคลอดของคุณผู้หญิงทุกคน และทุกวัย มักจะมีเหม็นคาวอ่อน ๆ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และอาจจะมีกลิ่นคาวที่แรงขึ้นบ้างในช่วงใกล้มีประจำเดือน เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศ โดยอาจมีกลิ่นแรงร่วมกับการ มีตกขาว สีขาวเหมือนแป้งเปียก หรือขาวใสเล็กน้อยพอติดกางเกงชั้นในได้ ซึ่งทั้งหมดนับว่าเป็นภาวะปกติแต่ถ้าเกิด ช่องคลอดมีกลิ่น หรือ อวัยวะเพศหญิงมีกลิ่น ที่รุนแรงมากเพิ่มขึ้น ร่วมกับมีตกขาวจำนวนมาก มีสีและลักษณะที่ผิดปกติ อาทิเช่น สีเหลือง หรือเป็นมูก มูกปนเลือด หรือ เป็นเลือด มีผื่นบริเวณอวัยวะเพศ คัน แสบผิวหนังส่วนอวัยวะเพศหรือช่องคลอด เกิดการเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ปวด เจ็บ แสบเมื่อปัสสาวะ หรือปัสสาวะขุ่น อาการแบบนี้ นับว่าเป็นอาการที่ไม่ปกติ ที่คุณผู้หญิงจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อทำตรวจวินิจฉัยต่อไปเพื่อจะได้รักษาให้ทันท่วงที

สาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น

ช่องคลอดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะปัจจัยดังนี้

สุขอนามัยที่ไม่ดี

มีสิ่งสกปรกหลงเหลือบริเวณช่องคลอด แล้วไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาดกำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไป ดังเช่น ไม่รักษาความสะอาด ไม่อาบน้ำทำความสะอาดอวัยวะเพศ ทำให้หมักหมมสิ่งสกปรกจนถึงมีการอักเสบ หรือลืมเปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นเวลานาน ๆ เพิ่มการสั่งสมของเชื้อโรคมีการอักเสบได้ด้วยเหมือนกัน โดยการมีสุขอนามัยที่ไม่ดีอาจเป็นเพราะการปล่อยทิ้งไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพ เป็นทั้งลักษณะนิสัยเฉพาะบุคคล เป็นผลจากภาวะทางจิตใจ อย่างภาวะซึมเศร้า สูญเสียความจำ มีอาการทางด้านจิต หรืออาจเป็นเพราะเนื่องจากไม่มีความสามารถสำหรับเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นบริเวณอวัยวะเพศได้ ตัวอย่างเช่น ผู้พิการไม่มีความสามารถ เป็นต้น

ภาวะช่องคลอดอักเสบแบบแบคทีเรียลวาไจโนสิส (Bacterial Vaginosis: BV)

โดยทั่วไปภายในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยสร้างสารบางอย่างที่ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียไม่ดีที่อาศัยอยู่ แต่ว่าการอักเสบจากแบคทีเรียวาจิโนสิสเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความไม่พอดีของจำนวนแบคทีเรียในช่องคลอด หรือมีการเติบโตของแบคทีเรียภายในช่องคลอดมากเกินความจำเป็น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

• มีการติดเชื้อโรคผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ได้แก่
• หูดที่อวัยวะเพศจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV)
• การป่วยโรคทริโคโนสิส (Trichinosis) จากปรสิตทริคิเนลล่า สไปราลิส (Trichinella Spiralis)
• การรับเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease: PID)
• การอักเสบที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Thrush)

ช่องคลอดมีกลิ่น ควรจะทำยังไง ?

การดูแลตัวเอง

โดยทั่วไป ภายในช่องคลอดจะผลิตสารหล่อลื่นเพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกภายในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งจะออกมาในรูปของการตกขาว อย่างไรก็ดี ควรจะรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดแล้วก็อวัยวะเพศอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาช่องคลอดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ อาทิเช่น

• อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอยู่ตลอด ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำที่สะอาดและสบู่อ่อน ๆ เพราะว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างบางประเภทบางทีอาจมีผลต่อค่า pH (ความเป็นกรดด่าง) ภายในช่องคลอด ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ ควรระมัดระวังสำหรับการใช้ หรือปรึกษาหมอก่อน
• ทำความสะอาดบริเวณภายนอกช่องคลอดเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำหรือสเปรย์น้ำหอมใด ๆ ฉีดพ่นเข้าไปภายในช่องคลอด และไม่ควรจะสวนล้างช่องคลอด เพราะว่าจะมีผลกระทบต่อความสมดุลของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ภายในช่องคลอด
• หากเป็นช่วงรอบเดือน ควรจะเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
• ใช้กางเกงในที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ อย่างกางเกงในผ้าฝ้าย 100 % เพื่อช่วยการระบายความอับชื้น
• เลี่ยงการสวมใส่กางเกงรัดรูปอย่างกางเกงยีนส์ เนื่องจากอาจจะทำให้ช่องคลอดอับชื้นและก็มีกลิ่นได้

การป้องกันไม่ให้ช่องคลอดมีกลิ่น

• ป้องกันการเกิดโรค หลาย ๆ โรคที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฉะนั้น การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยจะช่วยปกป้องและลดปัญหาที่จะตามมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเหล่านั้นได้ อย่างการใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกเหนือจากนั้น ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะอายุ 21-64 ปี ควรจะเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกอยู่ตลอด เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายบ่อนทำลายสุขภาพ และเพื่อที่จะสามารถรักษาแก้ไขได้ทันเหตุการณ์ถ้าหากมีเนื้อร้ายก่อตัวขึ้น
• รักษาสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อร่างกาย รวมถึงบริหารร่างกายอย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยสร้างสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงโดยรวมแล้ว ยังช่วยทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ตามปกติ รวมทั้งบริเวณช่องคลอดด้วย

จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นคาวเป็นปัญหาที่สาว  ๆ  กังวลใจและไม่มั่นใจในตนเอง หากคุณรู้ว่าคุณมีอาการเช่นนี้คุณควรดูแลตัวเองให้ดี หมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ หรือเป็นแบบรุนแรงให้รีบไปพบหมดเพื่อทำการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดโรคที่ร้ายแรงอย่างเช่นโรคมะเร็งค่ะ