หนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายท่านนิยมกำจัดขนจุดซ่อนเร้น ทำให้ดูสะอาดตา โล่งสบาย เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวิธีโกนขนจุดซ่อนเร้นpantip ซึ่งสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ เพื่อให้การโกนขนของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีวิธีการที่ง่าย สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยังให้ผลลัพธ์ที่ดีมากอีกด้วย
ข้อแนะนำสำหรับการโดนขนจุดซ่อนเร้น
1.หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรกำจัด เพราะเป็นขนที่มีประโยชน์ เป็นตัวรับการกระแทกเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ทั้งช่วยป้องกันอวัยวะเพศเสียดสีโดยตรงกับเสื้อผ้า หรือกางเกงชั้นใน
2.หากขนหัวหน่าวมีมาก อาจเพียงตัดเล็มให้เป็นระเบียบ ดูสวยงามมีรสนิยม ไร้อันตราย
3.หากมีความจำเป็นต้องกำจัด ควรรักษาความสะอาด การบาดเจ็บ การติดเชื้อ ควรใช้ครีมฆ่าเชื้อหรือครีมลดการระคายเคืองที่ให้มาพร้อมอุปกรณ์กำจัดขน
สาเหตุที่ต้อง กำจัดขนจุดซ่อนเร้น
เนื่องจากการมีขนอาจทำให้ดูรกตา ไม่สะอาด มีกลิ่น เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม การแต่งกาย และหน้าที่การงาน เช่น นักกีฬาว่ายน้ำ บางแบบชุดว่ายน้ำ ฯลฯ จึงมีการกำจัดขนเพื่อให้ดูดีและมั่นใจ ในเมืองไทยนิยมกำจัดขนน้อยกว่าประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะขนที่หัวหน่าว หญิงไทยมีการกำจัดขนที่หัวหน่าวประมาณร้อยละ 10 ส่วนใหญ่เป็นหญิงอายุน้อยหรือวัยรุ่น งานวิจัยพบว่า หญิงอเมริกันกำจัดหรือเคยกำจัดขนหัวหน่าว ประมาณร้อยละ 91.4 จากสาเหตุใหญ่ 5 ประการ ดังนี้
- ทำให้ดูดี สะอาด ดูแลสุขอนามัยง่าย
- เป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ เป็นไปตามรสนิยม เพื่อความเรียบร้อย ไม่รุงรัง
- เกี่ยวกับชุดแต่งกาย เช่น ชุดว่ายน้ำ ชุดรัดรูป กางเกงสีขาว
- สามีหรือแฟนต้องการ
- ขนดกมาก เป็นอุปสรรคต่อการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การทำรักด้วยปาก
วิธีกำจัดขน
โกนขนจุดซ่อนเร้นpantip มีมากมายหลายวิธี หากมีการทำลายเซลล์ชั้นผิวหนัง (Dermal Papilla) ซึ่งเป็นตัวสร้างเซลล์ต่อมขน ขนเส้นนั้นก็จะไม่งอกอย่างถาวร
วิธีกำจัดขนบริเวณทั่วไป
- ถอน เป็นวิธีดั้งเดิม โดยใช้อุปกรณ์ ได้แก่ แหนบ คีม เส้นด้าย หรืออุปกรณ์ถอนขนชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้รับความนิยม มีการรับจ้างถอนขนตามร้านค้า ร้านเสริมสวยหรือรับจ้างตามบ้านก็มี ข้อดีคือ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย ข้อเสียคือ เจ็บ หากทำเองอาจไม่ค่อยสะดวก หลังถอนอาจเกิดจุดแดง ๆ คัน เจ็บ เกิดการอักเสบที่รูขุมขน ขนคุดจากการถอนผิดทิศทาง หรือหากอุปกรณ์ถอนและวิธีถอนไม่สะอาด อาจเกิดการอักเสบหรือเป็นฝีได้
- แว๊กซ์ (Waxing) หลักการคล้ายการถอนขนเพียงแต่ใช้อุปกรณ์แว๊กซ์ขน ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น โดยการทาแล้วดึงแว๊กออก ขนก็จะหลุดออกมาด้วย ข้อเสียคือ ขนมักจะขึ้นใหม่ เนื่องจากการแว๊กซ์เป็นแค่การดึงขนขึ้นมา ไม่ได้ทำลายการสร้างขน ส่วนข้อเสียก็เช่นเดียวกับการถอนขน
- ใช้สารเคมี (Depilation) เป็นการสลายเส้นขนให้กลายเป็นเจล แล้วเช็ดหรือล้างออก มักใช้สารไทโอไกลโคเลต (Thioglycolate) สลายส่วนประกอบของขนที่เป็นกำมะถัน (Disulfide Bond) นิยมใช้ในคนที่จะสวมชุดว่ายน้ำ และในผู้ชายที่มีขนบริเวณใบหน้ามาก ข้อเสียคือ มักทำให้ระคายเคืองผิว เจ็บ แสบ คัน บางคนไวต่อสารเคมีมาก หลังทำผิวจะมีสีคล้ำ และเนื่องจากวิธีนี้ไม่ทำลายการสร้างขน ขนมักจะขึ้นใหม่ภายในสองสัปดาห์
- โกน วิธีนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะง่ายที่สุด ทั้งยังมีอุปกรณ์สำหรับโกนชนิดใหม่ ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น มีดโกน เครื่องโกนไฟฟ้า ข้อดีคือ การโกนไม่ทำให้ขนหนาขึ้นกว่าเดิม สะดวก ประหยัด ข้อเสียคือ ขนขึ้นเร็ว เช่น หากโกนหนวด ในบางรายต้องโกนวันละ 2 ครั้ง และอาจบาดเจ็บหลังโกน เพราะถูกมีดโกนบาด บางรายก็อาจบาดเจ็บจากการโกนขนที่อวัยวะเพศจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน ส่วนบางคนแพ้ครีมหรือมูสสำหรับโกน จึงเกิดการอักเสบ เป็นสิวหลังโกน ติดเชื้อจากแผลที่เกิดจากรอยบาด
- ฟอกสี แม้จะไม่ใช่วิธีกำจัดขนให้หายไป แต่การฟอกขนให้มีสีอ่อนทำให้มองไม่เห็นขน สารที่ใช้ฟอกมักจะประกอบไปด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และกำมะถัน ข้อเสียคือ อาจระคายเคือง คันผิว ผิวบริเวณที่มีขนที่ย้อมจะดูซีดจางไปด้วย
- ใช้เลเซอร์กำจัดขน วิธีนี้เป็นการใช้แสงและความร้อนทำลายถึงเซลล์สร้างขน จึงเป็นการกำจัดขนอย่างถาวร จากงานวิจัยพบว่า การทำเลเซอร์กำจัดขนเพียงครั้งเดียวจะทำให้ขนงอกน้อยกว่าเดิมประมาณ 30% หากทำเลเซอร์กำจัดขนหลายครั้ง ส่วนใหญ่ขนมักไม่ขึ้นถาวร